ประวัติ
ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน (อังกฤษ: Harley-Davidson) รู้จักกันดีในชื่อ ฮาร์ลียส์ (Harleys) หรือในเมืองไทยนิยมเรียกกันว่า ฮาร์เล่ย์ เป็นบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ จากสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ มิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ซึ่งฮาร์ลีย์-เดวิดสันนี้ เป็นหนึ่งในสองบริษัทผลิตมอร์เตอร์ไซค์ที่ยังคงดำเนินการอยู่ (อีกบริษัทคือ วิกตอรี) ลักษณะเด่นของรถของบริษัทนี้ คือเป็นรถที่มีลักษณะใหญ่ การออกแบบเฉพาะตัวและเสียงเครื่องยนต์ที่แตกต่าง
ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2446จาก วิลเลียม ฮาร์ลีย์ และ อาร์เธอร์ เดวิดสัน โดยก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ. 2444 ฮาร์ลีย์ได้เริ่มวางแผนในการนำเครื่อง 116 ซีซี มาใช้กับโครงจักรยาน และหลังจากนั้น ในปี 2449 ทั้งคู่ได้ตั้งโรงงานขึ้น โดยถัดมาอีกหนึ่งปีหลังจากที่ ฮาร์ลีย์ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน เขาได้ขยายโรงงานเพิ่ม
Harley davidson Street bob
รถจักรยานยนต์ฮาเลย์เดวิดสันสตรีทบ็อบ Harley davidson Street bob เป็นมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ในตระกูลไดน่า (Dyna) เครื่องขนาด 1,584cc เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีตำนานตั้งแต่ยุคสงคราม. ในภาพลักษณ์ของคนอเมริกันจะเป็นรถที่มีเบาะต่ำ, ยางแบบแบนและใช้คันบังคับเลี้ยวแบบสูง (Ape hanger) สำหรับรุ่นปัจจุบันมีแรงบันดาลใจมาจากยุค 70 แสดงให้เห็นถึงวิญญาณแห่งการแสดงออกกับประสิทธิภาพของรุ่นปัจจุบัน (‘70s spirit of self-expression teamed with modern performance) รถรุ่นนี้ถูกแนะนำสู่ตลาดในปี 2006. เป็นมอเตอร์ไซค์ประเภทล่องทางไกลหรือเรียกว่า Cruiser ในภาษาอังกฤษ.
Bobber รุ่นแรกๆในช่วงสงคราม
เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองโดยทหารอเมริกันรถจะถูกติดอุปกรณ์เสริมเช่นกล่องกระสุน, วิทยุและที่ยึดปืน. เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดบางส่วนถูกนำกลับมายังอเมริกา ประชาชนชาวอเมริกันทั่วไปมีโอกาสได้ซื้อ คนที่ซื้อมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้จะถอดอุปกรณ์เสริมและชิ้นส่วนบางอย่างออก (Stripe) เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันทำให้เกิดคำที่ว่า (Bobbed) ซึ่งเป็นที่มาของรถรุ่นนี้. ส่วนรถที่ถูกถอดออกเหลือแต่โครงและเครื่องยนต์จะเรียกว่า Bobber
Street bob ในยุคปัจจุบัน
[2]ออกสู่ตลาดเมื่อปี 2006 ฮาเลย์เดวิดสันทำมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เพื่อเลียนแบบ Bobber bike ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง. ถูกออกแบบให้คำนึงถึงปรัชญาที่ว่า Less is more ซึ่งเป็นพฤติกรรมของผู้ใช้ Bobber bike ช่วงหลังสงครามที่จะนำอุปกรณ์เสริมติดรถที่ใช้ในสงครามออกจนเปลือยกลายเป็นรถ Bobber. การออกแบบจึงกลายเป็นแนวเปลือยไม่เติมสิ่งตกแต่งและอุปกรณ์ติดรถอย่างเช่นมิเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กโทรนิค เพื่อให้ได้รถที่ไม่เพียงมองดูสะอาด (clean look) แต่ยังมีน้ำหนักเบาและได้ความเร็ว(ยุค 70 เครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่กำลังน้อย ผู้ใช้เลยนิยมลดน้ำหนักเพื่อทำให้รถวิ่งเร็วขึ้น). ความสะดวกสบายในการขับขี่ก็เป็นไปในระดับเดียวกับรถร่วมสมัย. เป็นรถเครื่องแคมคู่ที่ราคาถูกที่สุดในสายการผลิตของ Harley davidson ในเวลานี้ทำให้ได้รับความนิยมพอสมควร.
เครื่องยนต์
[3][4]เริ่มแรกตอนเปิดตัวเมื่อปี 2006 ใช้เครื่องยนต์ 1449cc หรือที่เรียกว่าแคมคู่ 88 (Twin cam 88) ขนาด 80 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที,แรงบิด 111 นิวตัน-เมตรที่3,500รอบต่อนาที หลังจากนั้นปี 2007 ก็เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์แคมคู่ 96 (หรือที่เรียกว่าเครื่อง 88 บล็อกบี). เป็น 1 ใน 2 โมเดลปัจจุบันที่ยังใช้เครื่องยนต์แคมคู่ 96 (Twin cam 96) อีกรุ่นนึงคือ Super glide custom. ในรุ่นปี 2013 สามารถเลือกที่จะใช้เครื่องยนต์แคมคู่ 103 (twin cam 103) ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่มาแทนแคมคู่ 96. เครื่องยนต์ทุกตัวกระบอกสูบวางเป็นรูปตัว V.
ช่วงล่าง
มีระบบเบรก ABS เป็นตัวเลือก. ใช้ Shock absorber ของ Showa (ข้อมูลจากปี 2013)
รุ่นปี
2006
สีรถ : Vivid black, black cherry, deep cobalt, black denim
2007
- เปลี่ยนเครื่องยนต์เป็น แคมคู่ 96
2013
สีรถ : Vivid Black, Ember Red Sunglo, Black Denim
2013
รูปทรงรถและรูปแบบถูกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย.
- เปลี่ยนรูปร่างบังโคลนท้าย (rear fender),
- ไฟท้ายถูกโยกจากตรงกลางไปด้านข้างและที่ยึดป้ายทะเบียนย้ายอยู่ด้านซ้าย.
- ชัสซีและเครื่องยนต์ถูกเปลี่ยนเป็นสีดำ
- ตำแหน่งของที่เสียบกุญแจย้ายจากแกนของคันบังคับเลี้ยวไปยังถังน้ำมัน.
- คันบังคับเลี้ยวก็ถูกเปลี่ยนกลับมาใช้แบบ Mini ape hangers (คันบังคับเลี้ยวแบบนึงของรถช๊อปเปอร์ที่มือจับจะอยู่สูงมากทำให้คนขับเหมือนกำลังห้อยมอเตอร์ไซค์) และได้เติมตัวต่อคันบังคับเลี้ยว (Bar riser) เพื่อง่ายแก่การดัดแปลง.
- เครื่องยนต์ก็เพิ่มตัวเลือกให้สามารถเลือกเครื่องยนต์แคมคู่ตัวใหม่ของฮาเลย์เดวิดสัน. นั่นคือเครื่องแคมคู่ 103 มีทั้งสีดำและโครม.
- ท่อไอเสียก็เปลี่ยนจากท่อตรงเป็นท่อแบบเรียวลง (taper).